พระพุทธรูป ประจำกระทรวงการต่างประเทศ

          โครงการสร้างพระพุทธรูปนี้เกิดขึ้นจากการที่เมื่อปี พ.ศ. 2551 เจ้าอาวาสวัดทีปทุตตมาราม กรุงโคลัมโบ ปรพเทศศรีลังกา ได้ขอความอนุเคราะห์รัฐบาลไทยในการบูรณซ่อมแซมยอดฉัตรรัตนเจดีย์ของวัด ซึ่งได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยุ่หัว กระทรวงการต่างประเทศจึงได้นำคณะเจ้าหน้าที่จากสำนักช่าง สิบหมู่ กรมศิลปากร เดินทางไปบูรณะซ่อมแซมและติดตั้งยอดฉัตร รวมทั้งรวมพิธีสมโภชฯ ที่วัดดังกล่าวระหว่างวันที่ 2-6 มีนาคม 2553 และต่อมา มีดำริที่จะนำโครงยอดฉัตรเดิมและเศษผงทองซึ่งเป็นวัสดุมงคลคงเหลือจากการบูรณะซ่อมแซมมาจัดทำเป็นมวลสารสร้างพระพุทธรูปประจำกระทรวงการต่างประเทศ 

          จากนั้น กระทรวงการต่างประเทศได้รวบรวมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อนำมาเป็นมวลสารในการสร้างพระพุทธรูปองค์นี้อาทิ ยันต์ศักดิ์สิทธิ์จากพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศไทยรวม 140 รูป อีกทั้งได้ขอความร่วมมือสถานเอกราชฑูต สถานกงสุลใหญ่ และสำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย รวบรวมมวลสารศักดิ์สิทธิ์จากแหล่งต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งล้วนเป็นวัตถุมงคลที่ทรงคุณค่า ได้แก่แผ่นกระเบื้องวิหารวดโทไดจิ จังหวัดนารา ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นกระเบื้องที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยุ่หัวใด้ถวายแก่วัดในระหว่างเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี พ.ศ. 2445 และมวลสารมงคลจากวัดทางพระพุทธศาสนาสำคัญในต่างประเทศ อาทิ อินเดีย เนียร์มาร์ และจีน

          กระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยุ่หัวในการนำแกนฉัตรรัตนเจดีย์เดิมของวัดที่ประทุตตมารามและแผ่นกระเบื้องหลังคา วัดโทไดจิ มาเป็นมวล สารในการจัดสร้างพระพุทธรูปซึ่งต่อมมาเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2555 สำนักราชเลขาธิการได้มีหนังสือแจ้งว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานพระบรมราชานุญาตในการดำเนินการดังกล่าว และได้พระราชทานแผ่นโลหะผสมเงิน ทอง นาก ที่ทรงเจิมแป้งมงคลและทรงพระสุหร่าย เพื่อร่วมในการจัดสร้างพระพุทธรูปปางลีลาในครั้งนี้ด้วย ซึ่งยังความปลื้มปิติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาที่สุดมิได้